Thai PBS Podcast
Podcast / รายการ / ภูมิคุ้มกัน / เตือนภัยออนไลน์ ระวังแก๊ง Hybrid Scam หลอกให้รักก่อนลวงให้ลงทุนเงินดิจิทัล / การกินยาควบคุมไขมันในเลือด (ยาสแตติน) ต้องทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดจริงหรือ
57:01
เตือนภัยออนไลน์ ระวังแก๊ง Hybrid Scam หลอกให้รักก่อนลวงให้ลงทุนเงินดิจิทัล / การกินยาควบคุมไขมันในเลือด (ยาสแตติน) ต้องทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดจริงหรือ
ฟังรายการ
ชื่นชอบ
เตือนภัยออนไลน์ ระวังแก๊ง Hybrid Scam หลอกให้รักก่อนลวงให้ลงทุนเงินดิจิทัล / การกินยาควบคุมไขมันในเลือด (ยาสแตติน) ต้องทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดจริงหรือ
วันที่เผยแพร่ : 09 มี.ค. 65
เพิ่มในเพลย์ลิสต์
ดาวน์โหลด
แชร์

ฟังเตือนภัยออนไลน์  ระวังแก๊ง Hybrid Scam หลอกให้รักก่อนลวงให้ลงทุนเงินดิจิทัล
     มีอุทาหรณ์สำหรับ หญิงสาวที่ต้องการหาคู่ผ่านแอปพลิเคชัน ล่าสุดหญิงสาวรายหนึ่งร้องเรียนว่า ถูกหลอกให้ลงทุนผ่านแอปฯ ชื่อ AAX อ้างเป็นแอปฯฮ่องกง โดยสูญเสียเงินไปทั้งหมด 898,000บาท เหตุเกิดช่วงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 65 มีเพื่อนแนะนำให้เล่นแอปฯทินเดอร์ เป็นแอปฯหาเพื่อน พอเข้าไปเล่น ก็มีชาย รูปภาพหน้าดี ทักมาคุย ช่วงแรกคุยเรื่องทั่วไป ต่อมาผ่านไป 5-6 วัน ก็ชวนลงทุน เทรดสกุลเงินดิจิตอล มีการสอนให้เข้าไปในแอป ชื่อ AAX ซึ่งทราบภายหลังว่าเป็นแอปฯ ปลอม ที่ผู้ก่อเหตุสร้างขึ้นเอง ลงทุนครั้งแรก 35,000 บาท ถอนเงิน 4,800 บาท เป็นผลกำไร, ครั้งที่สอง ลงทุนเพิ่มเป็น 230,0000 บาท รวมผลกำไร 33,000 บาท  ครั้งที่สามลงเพิ่ม 580,000 บาท บัญชีที่ผู้เสียหาย โอนเข้ามี 4 ธนาคาร คือ 1.นายสุวัฒน์ ทับช้าง 2.นายณัฐพงศ์ สิงห์คาร์ 3.นายธนทัต ลงทิพย์ 4.นายเลิศพิพัฒน์ ปาระนัน ล่าสุดได้ แจ้งความที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี  (สอท.) หรือ ตำรวจไซเบอร์


ประเด็น ความคืบหน้าการซื้อขายซิมอินเทอร์เน็ตผ่านเฟซบุ๊ก  
     ทางบริษัทเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ชี้แจงว่า ไม่มีระบบขายแบบตัวแทน เพราะฉะนั้นการซื้อซิม อาจมีผู้นำบัตรประชาชนผู้อื่นไปซื้อ และนำมาหลอกขาย แอบอ้างเป็นซิมรายปี แท้จริงเป็นซิมรายเดือน ให้เติมเงินธรรมดา 
     ส่วนการสืบไปถึงบัญชีปลายทางที่ บริษัทขนส่งโอนเงินไปให้ ตอนนี้พบว่าบัญชีดังกล่าว ชื่อ น.ส.พิไลลักษณ์ อายุ 37 ปี ได้ปิดบัญชีไปแล้ว และพบว่ามีเงินหมุนเวียนเข้า-ออกบัญชีภายใน 4 เดือน กว่า 9 ล้านบาท ซึ่งข้อมูลประเด็นบัญชีม้านั้น ทางทีมข่าว ได้โทรไปสอบถามญาติของ น.ส.พิไลลักษณ์ ได้ให้ข้อมูล ว่า เขาเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ยินดีให้ข้อมูล ของพิไลลักษณ์  ก่อนหน้านี้พิไลลักษณ์ติดยา คบหาเพื่อนไม่ดี และถูก น.ส.บูม มาชักชวนให้ไปเปิดบัญชีได้เงินค่าจ้างมา 400 บาท  เปิดบัญชีเมื่อวันที่ 1 มิ.ย.2564 และนำเอทีเอ็ม สมุดบัญชีธนาคาร ให้เขาไปหมด จากนั้นเมื่อช่วงกุมพาพันธ์ 2565 มาทราบว่ามีผู้เสียหายจากการซื้อซิมเกิดขึ้น จึงไปลงบันทึกประจำวันไว้ โดยอ้างว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการขายซิมอินเทอร์เน็ต และไปปิดบัญชีเมื่อวันที่ 10 ก.พ.2565 ดูจากสเตทเม้นท์ พบเงินหมุนเวียนเข้าออกกว่า 9 ล้านบาท จากนั้นถามทางญาติของ พิไลลักษณ์ ว่าตอนนี้ น.ส.บูม อยู่ที่ไหน ติดต่อได้หรือไม่ ทางพิไลลักษณ์ให้ข้อมูลว่า บูม ถูกจับจำคุกอยู่ที่เรือนจำลพบุรี จึงสอบถามว่า น.ส.บูม ชื่อนามสกุลจริง อะไร เขาก็ตอบว่าไม่ทราบ ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่า บูม ถูกจับจริงหรือไม่ และเรื่องนี้จะสาวไปถึงตัวการได้หรือไม่ ต้องให้ผู้เสียหาย แจ้งความในออนไลน์ แล้วนำเลขคดีมาให้ทีมงาน จะประสานกับตำรวจไซเบอร์ต่อไป ซึ่งเรื่องนี้ ทางตำรวจไซเบอร์แนะนำว่า ให้ผู้เสียแจ้งความทางออนไลน์อีกทางหนึ่ง เพื่อเรื่องจะได้สืบสวนต่อไปได้ถึงต้นต่อของคนขาย และผู้อยู่เบื้องหลัง และเตือนภัยเรื่องนี้ เป็นการหลอกลวงขายสินค้าออนไลน์ ซึ่งหากพบเห็นการเสนอขายจากเพจต่างๆ อย่าหลงเชื่อ เช่น ซิม พอคำนวนแล้ว ราคาประหยัดมากต่อปี อาจสุ่มเสี่ยงว่าจะถูกหลอก

ช่วงคิดก่อนเชื่อ กับ ดร.แก้ว กังสดาลอำไพ นักพิษวิทยา ตอน การกินยาควบคุมไขมันในเลือด (ยาสแตติน) ต้องทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดจริงหรือ
 

ตอนถัดไป
ตอนที่เกี่ยวข้อง
แผ่นเสียง แผ่นเสียง
กำลังออกอากาศ ไม่มีการออกอากาศ แผ่นเสียง Radio แผ่นเสียง Podcast เล่นแผ่นเสียง พักแผ่นเสียง
คลิปเสียงถัดไป