วัดต้นแหลงใอำเภอปัว จังหวัดน่าน เป็นสัญลักษณ์ของความงามและเอกลักษณ์ของศิลปะและวัฒนธรรมไทลื้อที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตของชุมชนไทลื้อ ซึ่งตั้งถิ่นฐานในภาคเหนือของประเทศไทยและมีต้นกำเนิดจากสิบสองปันนาในมณฑลยูนนาน ประเทศจีน ชื่อของวัดมาจาก "ต้นแหลง" ซึ่งเป็นชื่อต้นยวนผึ้ง ต้นไม้ใหญ่ที่มีกลิ่นหอมและทำให้ผึ้งหลวงสร้างรังบนกิ่งไม้ ชาวบ้านจึงขึ้นไปเก็บรังผึ้งเพื่อใช้ประโยชน์จากน้ำผึ้งที่ได้ จุดที่ตั้งวัดนี้เดิมมีต้นยวนผึ้งชุกชุม และเมื่อชาวไทลื้อมาตั้งถิ่นฐานจึงเรียกต้นไม้ชนิดนี้ว่า "ต้นแหลง" จึงเป็นที่มาของชื่อ "วัดต้นแหลง"
.
ซึ่งนอกจากจะสะท้อนถึงธรรมชาติแล้ว ยังแสดงถึงการอนุรักษ์ประเพณีการสร้างบ้านและวัดตามแบบโบราณที่ชาวไทลื้อสืบทอดต่อกันมานาน วิหารของวัดต้นแหลงมีลักษณะเป็น "วิหารทรงโรง" ซึ่งสะท้อนถึงพุทธศิลป์ของชาวไทลื้อที่ออกแบบให้วิหารเตี้ยและมีหน้าต่างขนาดเล็กเพื่อป้องกันความหนาวเย็นจากภายนอก ทำให้ภายในวิหารมืดทึบ แต่เมื่อแสงอาทิตย์ลอดเข้ามาจะส่องสว่างพระประธานได้อย่างงดงาม
.
ลักษณะของหลังคาวิหารมุงด้วยกระเบื้องไม้และตกแต่งด้วยช่อฟ้าไม้แกะสลักเป็นรูปหงส์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของสัตว์มงคลที่แสดงถึงความสุขและความเจริญรุ่งเรือง ภายในวิหารยังมี "ตุง" ที่ชาวไทลื้อใช้เป็นสัญลักษณ์ในการทำบุญ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นขั้นบันไดไปสู่สวรรค์หรือนิพพาน ส่วนธรรมาสน์ที่ประดับด้วยลวดลายพรรณพฤกษาและลาย "ปูรณฆฏะ" ก็เป็นสัญลักษณ์ของความรุ่งเรืองที่ชาวพุทธเชื่อว่าจะนำมาซึ่งความสุขและความเจริญให้กับชีวิต
.
การอนุรักษ์วิหารแห่งนี้ถือเป็นความสำเร็จของชาวไทลื้อในการรักษามรดกทางวัฒนธรรมและศิลปกรรมที่บรรพชนทิ้งไว้ให้กับคนรุ่นหลัง