วันนี้ (20 ก.ค. 65 ) กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ (Thai Media Fund) ร่วมมือกับเครือข่ายมหาวิทยาลัย 24 แห่ง ได้จัดงานมอบประกาศนียบัตรเพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติให้กำลังใจแก่ผู้ผลิตสื่อน้ำดีคุณภาพ มีเนื้อหาปลอดภัยและสร้างสรรค์ มีกระบวนการผลิตที่มีนวัตกรรม โดยมีรายการต่าง ๆ ที่เผยแพร่ผ่านสื่อของ องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ไทยพีบีเอส) ได้รับการคัดเลือกจำนวนรวมทั้งหมด 8 ผลงาน ทั้งกลุ่มข่าว, รายการ, สารคดีโทรทัศน์, รายการเด็ก, ละคร และสื่อเสียงไทยพีบีเอสพอดคาสต์ ดังนี้
- รายงานพิเศษตอน "อาหาร (ไม่) มั่นคงสู้วิกฤติ" ออกอากาศในข่าวภาคค่ำ ช่วง "พลิกปมข่าว" โดย ศูนย์สื่อสารวาระทางสังคมและนโยบายสาธารณะ [คลิกชม]
- สารคดีโทรทัศน์ "หอมกลิ่นสยาม" ละครโทรทัศน์ "ปลายจวัก" และรายการ "ภัตตาคารบ้านทุ่ง"
สารคดีโทรทัศน์ "หอมกลิ่นสยาม" [คลิกชม]
ละครโทรทัศน์ "ปลายจวัก" [คลิกชม]
รายการ "ภัตตาคารบ้านทุ่ง" [คลิกชม]
- รายการสำหรับเด็กและเยาวชน 3 รายการ คือ "สถานีหุ่นหรรษา", "ท้าให้อ่าน (The Reading Hero)" และ "บ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย" (เป็นความร่วมมือกับองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ หรือ อพวช.)
รายการ "สถานีหุ่นหรรษา" [คลิกชม]
รายการ "ท้าให้อ่าน (The Reading Hero)" [คลิกชม]
รายการ "บ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย" [คลิกชม]
ทั้งนี้ ในกลุ่มสื่อโทรทัศน์จำนวน 17 รางวัล ไทยพีบีเอสได้รับทั้งสิ้นรวม 8 ผลงาน สำหรับประเภทสื่อออนไลน์ "ไทยพีบีเอสพอดคาสต์" เป็นหนึ่งในผลงานที่ได้รับรางวัลครั้งนี้ด้วย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม มอบประกาศนียบัตรให้กับผู้แทนจากไทยพีบีเอสพอดคาสต์
การจัดงานมอบรางวัลครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่กองทุนสื่อปลอดภัยฯ ดำเนินงาน โดย นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเป็นผู้มอบประกาศนียบัตร สำหรับเกณฑ์การคัดเลือกผลงานนั้น คณะกรรมการพิจารณาจากคุณภาพเนื้อหารายการและกระบวนการผลิต มีผลงานเข้ารับการพิจารณาทั้งหมด 683 ผลงาน เหลือ 97 ผลงาน จาก 8 ประเภท ได้แก่ ประเภทสื่อโทรทัศน์ (17 ผลงาน) ประเภทสื่อภาพยนตร์ (11 ผลงาน) ประเภทสื่อวิทยุ (12 ผลงาน) ประเภทสื่อสิ่งพิมพ์ (15 ผลงาน) ประเภทสื่อออนไลน์ (15 ผลงาน) ประเภทสื่อโฆษณา/ประชาสัมพันธ์ (6 ผลงาน) ประเภทสื่อท้องถิ่น (18 ผลงาน) และประเภทนวัตกรรมสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ (3 ผลงาน)
สำหรับการคัดสรรในรอบที่สอง คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (18 คน) จะคัดเลือกเหลือ 39 ผลงาน เพื่อรับโล่รางวัล และคัดเลือก 13 ผลงานสุดท้ายเพื่อรับถ้วยพระราชทานจาก สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ต่อไป