
เมื่อเปรียบเทียบกับสถานีอวกาศนานาชาติ (International Space Station – ISS) ที่มีขนาดใหญ่และรองรับการอยู่อาศัยถาวรได้เป็นระยะเวลานาน สถานีอวกาศ Lunar Gateway มีขนาดที่เล็กลงอย่างเห็นได้ชัดเจน ทั้งในภาพรวมและขนาดของโมดูลแต่ละส่วน เช่น โมดูล HALO (Habitation and Logistics Outpost) ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 3 เมตร เล็กกว่าโมดูล Destiny และ KIBO ของ ISS ที่มีขนาดเฉลี่ย 4.3–4.4 เมตร และส่วนของแผงโซล่าเซลล์หลักที่มีขนาดเล็กกว่าแผงโซล่าเซลล์ของสถานีอวกาศนานาชาติ หรือแม้แต่จำนวนโมดูลของตัวสถานีก็มีจำนวนที่น้อยกว่าสถานีอวกาศนานาชาติเป็นอย่างมาก
โดยขนาดที่เล็กลงของ Lunar Gateway สะท้อนข้อจำกัดของการสำรวจอวกาศในยุคนี้ ซึ่งคือเรื่องของการขนส่ง เนื่องจากสถานีอวกาศนานาชาติถูกส่งขึ้นไปโดยกระสวยอวกาศ (Space Shuttle) ที่สามารถบรรทุกโมดูลขนาดใหญ่ได้ในครั้งเดียว แต่ในยุคปัจจุบัน ยานขนส่งหลักจะใช้เป็น Falcon Heavy และ SLS (Space Launch System) แทน ซึ่งมีข้อจำกัดด้านขนาดของส่วนบรรทุก (Payload Fairing) และน้ำหนักบรรทุกโดยเฉพาะเมื่อปลายทางอยู่ในวงโคจรระยะไกล เช่น Near-Rectilinear Halo Orbit (NRHO) รอบดวงจันทร์
ตัวอย่างเช่น โมดูล HALO ที่ถูกพัฒนาโดยบริษัท Thales Alenia Space ซึ่งเป็นผู้ออกแบบยานขนส่ง Cygnus โดยนำโครงสร้างที่เบา แข็งแรง และกะทัดรัด มาปรับใช้กับการอยู่อาศัย ซึ่งแม้จะมีขนาดที่เล็กกว่าโมดูลในสมัยของสถานีอวกาศนานาชาติแต่ก็ต้องมีระบบปรับความดันและเอื้อต่อการดำรงชีวิตในอวกาศเพรียบพร้อมเหมือนเดิม นั้นหมายความว่าแม้ขนาดของโมดูลจะเล็กลง แต่มันก็ได้รับการออกแบบด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าที่ทำให้สามารถทำงานได้แม้ขนาดและพื้นที่ใช้สอยจะไม่เท่าเดิม
ภาพถ่ายโมดูล HALO โมดูลหลักของสถานีอวกาศ Lunar Gateway ในโรงงานของ Northrop Grumman (ภาพจาก NASA/Josh Valcarcel)
สถานีอวกาศ Lunar Gateway ไม่มีลูกเรือประจำถาวร มันถูกออกแบบให้รองรับนักบินอวกาศสูงสุดเพียง 4 คนในแต่ละภารกิจ และถูกใช้งานเพียงไม่กี่สัปดาห์ต่อปีเท่านั้น ทำให้ไม่จำเป็นต้องมีพื้นที่ใช้ชีวิตหรือระบบอำนวยความสะดวกในระดับเดียวกับ ISS
ในอนาคตสถานีอวกาศ Lunar Gateway จะขยายความสามารถเพิ่มเติมผ่านการติดตั้งโมดูลเสริม เช่น I-HAB จากองค์การอวกาศยุโรป (ESA) และโมดูลจากญี่ปุ่น (JAXA) รวมถึงรองรับยานขนส่งอย่าง Orion, Starship และ Dragon XL สำหรับการเติมเสบียงและส่งลูกเรือ
การออกแบบสถานีอวกาศ Lunar Gateway จึงเป็นตัวอย่างของการปรับตัวสู่แนวคิดใหม่ในการสำรวจอวกาศ ที่เน้นความคล่องตัว ความแม่นยำของระบบอัตโนมัติ และการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อก้าวสู่เป้าหมายระยะยาวของมนุษยชาติในการสำรวจดวงจันทร์และดาวอังคารในอนาคต
ฟังรายการได้ทาง