กรณี THE iCON เป็นข่าวที่อยู่ในความสนใจของคนไทยทั้งประเทศ ปัญหาของการฉ้อโกง ใช้กลเม็ดเด็ดพรายทางการตลาด การหาสมาชิกแบบบบอกต่อ ซึ่งเข้าข่ายการเป็นธุรกรรมหลอกลวง ทำให้มีผู้เสียหายและเกิดผลกระทบวงกว้าง
จีนเป็นประเทศใหญ่ มีประชากรมากกว่า 1,400 ล้านคน แม้ตอนนี้เทคโนโลยีจะมีความก้าวหน้าไปมาก แต่ก็เคยเกิดการหลอกลวงและฉ้อโกงเช่นเดียวกัน มองจีนมุมใหม่คุยกับ คุณตฤณ วุ่นกลิ่นหอม นายกสมาคมการค้าดิจิทัลไทย และกรรมการการค้าข้ามแดนจีนว่าหน่วยงานรัฐมีวิธีจัดการโดยใช้กฎหมายและเทคโนโลยีสมัยใหม่อย่างไร
คุณตฤณ วุ่นกลิ่นหอม นายกสมาคมการค้าดิจิทัลไทย และ กรรมการการค้าข้ามและจีน เล่าว่า หนึ่งในคดีโด่งดังของจีนที่หลอกคนมาลงทุนจนสร้างความเสียหายให้กับประชาชนกว่า 9 แสนราย มูลค่าความเสียหายกว่า 8.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คือกรณี “อี้สือเปา” อ้างการลงทุนการออม ในระยะสั้นแล้วจะได้รับผลกำไรคุ้มค่า ใช้กระบวนการทาบทาม ตีสนิทเหล่าดารา หรือบุคคลมีชื่อเสียงให้เข้ามาร่วมลงทุน เพื่อสร้างภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถือให้กับบริษัท จากนั้นจึงเชิญชวนผู้ลงทุนที่เป็นประชาชนหรือบุคคลอื่น ๆ เข้ามาร่วมลงทุน
ด้วยภาพลักษณ์ที่น่าเชื่อถือของคนดังที่ถูกเชิญมาร่วมลงทุน รวมทั้งการแสดงให้เห็นดอกเบี้ยที่ได้รับวันต่อวัน ทำให้ธุรกิจนี้เติบโตอย่างรวดเร็ว แต่หน้าจอที่แสดงตัวเลขอัตราดอกเบี้ย เป็นเพียงตัวเลขที่บริษัทปลอมแปลงขึ้น ไม่ใช่ข้อมูลที่มีอยู่จริง กว่าผู้ร่วมลงทุนจะรู้ว่าถูกหลอกก็สูญเสียเงินลงทุนไปเป็นจำนวนมหาศาล
แอปพลิเคชัน China Anti Fraud
กฎหมายเดิมที่จีนมีอยู่ไม่สามารถรับมือกับเหล่ามิจฉาชีพได้อย่างครอบคลุม รัฐบาลจีนจึงจัดตั้ง ศูนย์ปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ National Anti-Fraud Centre (NAFC) หน่วยงานนี้ได้สร้าง China Anti Fraud แอปพลิเคชันสำหรับตรวจสอบการฉ้อโกง เมื่อมีเบอร์แปลกโทรเข้ามา ผู้ใช้งานสามารถกดปุ่มแชร์ เข้าไปในแอปพลิเคชันเพื่อขอให้ทางการตรวจสอบ จากนั้นรอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบแบบเรียลไทม์ จะรู้ผลทันทีว่าข้อมูลที่ผู้ใช้งานสงสัยเป็นข้อมูลที่ถูกต้องหรือเป็นกลลวงจากมิจฉาชีพ ทั้งยังสามารถตรวจเช็กสถานะว่าเจ้าหน้าที่ดำเนินการในรูปแบบไหน กรณีเช่นนี้เกิดขึ้นมาแล้วกี่ครั้ง เป็นการนำเทคโนโลยีมาช่วยปราบกลโกงซึ่งถือว่าประสบผลสำเร็จอย่างมาก เป็นเหตุผลส่วนหนึ่งที่ทำให้มิจฉาชีพจีนทำงานได้ยากขึ้นจนต้องย้ายกลุ่มเป้าหมายไปยังประเทศข้างเคียง
นอกจากนี้ รัฐบาลจีนยังมีมาตรการเพิ่มเติมต่อยอดจากกฎหมายที่มีอยู่ เข้มงวดการอนุญาตโฆษณาออนไลน์และสื่ออื่น ๆ เพื่อป้องกันการหลอกลวง โดยจัดตั้ง กองบริหารกฎระเบียบการตลาดรัฐบาล หรือ The State Administration For Market Regulation (SAMR) ก่อนผู้ประกอบการเจ้าของสินค้าจะโฆษณาออนไลน์ ใช้อินฟลูเอนเซอร์นำเสนอสินค้าหรือบริการ การลงทุนใด ๆ ต้องไปขอใบอนุญาตโฆษณาและนำข้อมูลของสินค้าไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบอย่างถี่ถ้วนและทำล่วงหน้า รวมทั้งต้องมีเงินประกันหากมีผู้บริโภคได้รับผลกระทบจากการซื้อสินค้าและบริการ
“กว่าจะได้หนังสือรับรอง ต้องเอาเนื้อหาของสินค้าไปให้ทางหน่วยงานตรวจสอบ ถ้าเป็นอาหารและยา แน่นอนไปที่ อย. จีน ถ้าเป็นเครื่องสำอางก็ไปขอตรวจสอบมาว่ามีสารประกอบอะไรบ้าง อันดับแรกเอามาให้เห็นว่าคุณขายอะไร สินค้าคุณเป็นแบบไหน จากนั้นกรอกฟอร์มออนไลน์ก่อนว่าเราจะขายอะไร หากมีศิลปิน ดารา ใครบ้างที่จะมาถือสินค้า ถ้าออนไลน์เว็บไซต์ชื่ออะไร URL อะไร สถานที่จัดแสดงสินค้าอยู่ที่ไหน สถานีอะไร เวลากี่โมงถึงกี่โมง ต้องขนาดนั้นนะครับ พอกรอกฟอร์มทั้งหมดเสร็จปุ๊บ ขั้นตอนสุดท้ายคือต้องมีหนังสือรับรองจากสำนักงานทนายความ ว่าข้าพเจ้าได้วางเงินประกันไว้ ทำประกันไว้ ถ้าโฆษณาหลอกลวงเกินจริง แล้วมีผู้ซื้อไปใช้เกิดความเสียหาย ก็มีวงเงินประกันเยียวยา ช่วยเหลือผู้เสียหาย”
ความเข้มงวดก่อนออกใบอนุญาตโฆษณานี้ เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่มีส่วนสำคัญในการคัดกรองและป้องกันผู้นำสินค้าหรือบริการที่ไม่ได้คุณภาพรวมทั้งการหลอกลวงจากมิจฉาชีพต่าง ๆ ทำให้กระทำผิดได้ยากขึ้น
-----------------------------------
ติดตามรับฟังรายการ “มองจีนมุมใหม่” ที่ Thai PBS Podcast ฉบับเต็มได้ที่
Website : https://www.thaipbspodcast.com/podcast/chinainnewperspective/china151167
YouTube : https://youtu.be/EpoFYfUyzZE
-----------------------------------
ปราณปริยา แก้วต๊ะ / เชาว์วรรธณ์ พยัฆพันธ์ เรียบเรียง