ไทยพีบีเอสพอดคาสต์ ชวนทุกคนเปิดมุมมองการท่องเที่ยวใหม่ ออกเดินทางไปกับคนตาบอด สัมผัสประสบการณ์ที่คุณอาจจะนึกไม่ถึงกับ พี่ผึ้ง-วันดี สันติวุฒิเมธี และ น้องพลอย-สโรชา กิตติสิริพันธุ์ คนตาดีและคนตาบอด สองสาวจากรายการ "เพื่อนสนิท" ที่เคยไปเที่ยว 'เกาะเกร็ด จังหวัดนนทบุรี' แหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตใกล้กรุงเทพมหานคร เพื่อหาคำตอบว่า คนตาบอดสนุกกับการท่องเที่ยวได้อย่างไร ?
หลายคนสงสัยว่า “คนตาบอดมองไม่เห็น จะไปเที่ยวทำไม
ไปก็มองไม่เห็นอยู่ดี ?
น้องพลอย ผู้พิการทางสายตาเล่าว่า เธอมักเจอคำถามนี้อยู่บ่อย ๆ เพราะหลายคนไม่เข้าใจว่า การที่คนตาบอดไปเที่ยวนั้นจะสนุกได้อย่างไร ในเมื่อพวกเขามองไม่เห็น สำหรับเธอการท่องเที่ยวหรือความสนุก ไม่ได้เกิดจาก "ภาพ" อย่างเดียวเท่านั้น แต่เกิดจากการที่ได้ไปเที่ยวด้วยกันมากกว่า
พี่ผึ้ง พี่สาวคนสนิททำหน้าที่เป็นผู้นำทางและบรรยายบรรยากาศรอบตัวให้น้องพลอยฟัง เพื่อให้เกิดจินตภาพขณะท่องเที่ยวไปด้วยกัน เธอบอกว่า แม้จะเคยมาเที่ยวเกาะเกร็ดหลายครั้ง แต่การมากับน้องพลอยครั้งนี้ ทำให้เห็นเกาะเกร็ดในมุมมองใหม่ ๆ ที่เธอไม่เคยเห็นหรือสังเกตมาก่อน การได้ฟังเสียงและบอกทาง ทำให้เธอรู้สึกสนุก และไม่คิดว่าน้องพลอยคือ "ภาระ"
สองสาวออกเดินทางมุ่งหน้าสู่จังหวัดนนทบุรี นั่งเรือข้ามฟากไปยังเกาะเกร็ด พวกเขาเลือกไปเที่ยวในวันธรรมดา ซึ่งขณะนั้นอยู่ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้บรรยากาศของเกาะเกร็ดเงียบเหงากว่าที่เคย ร้านค้ากลับมาเปิดได้อีกครั้ง หลังจากหยุดไปนานกว่า 2 ปี พวกเธอค่อย ๆ เดินดูวิถีชีวิตของคนในชุมชนอย่างปราณีต โดยมีพี่ผึ้งเป็นเสมือน 'ดวงตา' ให้กับน้องพลอย เธอมองไปรอบ ๆ คอยบรรยายสิ่งที่ตาเห็นให้น้องพลอยฟังตลอดเส้นทาง ชุมชนแห่งนี้ยังคงวิถีชีวิตแบบชาวบ้านดั้งเดิม ผู้คนใช้ชีวิตเรียบง่าย ถ้อยทีถ้อยอาศัย เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ซึ่งกันและกัน
เมื่อคุณมาเที่ยวเกาะเกร็ด หากไม่ลองปั้นดินเผาสักครั้งก็เหมือนมาไม่ถึงถิ่น เพราะที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องเครื่องปั้นดินเผา งานหัตถกรรมพื้นบ้านเก่าแก่ที่สืบทอดกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ครั้งนี้สองสาวตั้งใจมาเพื่อเรียนรู้การปั้นดินเผา โชคดีที่ 'ร้านลุงติ ดินเปรอะ' เปิดอยู่ ซึ่ง ลุงติ เจ้าของร้านออกมาต้อนรับอย่างเป็นมิตร เริ่มแรกลุงติให้น้องพลอยเดินสัมผัสดินเผาเพื่อเรียนรู้รูปทรงต่าง ๆ และแนะนำเทคนิคว่า 'น้ำ' คือสิ่งสำคัญในการปั้น เมื่อมือแห้งต้องเอามือจุ่มน้ำ ลุงติค่อย ๆ อธิบายแต่ละขั้นตอนให้เข้าใจง่าย จนเธอปั้นแจกันและถ้วยชาได้สำเร็จตามที่ตั้งใจไว้
หลังจากนั้นสองสาวก็เดินเที่ยวไปเรื่อย ๆ จนได้กลิ่นหอมของสมุนไพรโชยมาแต่ไกล ชวนให้ทั้งสองต้องแวะเข้าไปดมกลิ่นและอุดหนุนผลิตภัณฑ์ที่ 'ร้านสมุนไพรบ้านย่าสา' ที่ขึ้นชื่อว่ามีสูตรยาสมุนไพรแบบดั้งเดิมที่ขายมานานกว่า 35 ปี นอกจากกลิ่นสมุนไพรแล้ว น้องพลอยยังได้กลิ่นดอกโมกขณะที่เดินผ่านสวนดอกไม้ในชุมชน พี่ผึ้งรู้สึกประทับใจมาก เพราะน้องพลอยได้เปิดมุมมองใหม่ที่เธอไม่เคยเห็นมากก่อน เธอบอกว่า หากมากับคนตาดีก็อาจจะไม่ได้กลิ่นดอกโมก และไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีสวนอยู่ตรงนี้ เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่เราไปเที่ยว คนมักใช้ทักษะการมองเห็นมากกว่าทักษะการดมกลิ่น
และส่งท้ายกับการแวะชิมขนมไทยโบราณที่ 'ร้านบ้านจ่ามงกุฎ' น้องพลอยได้สัมผัสและลองชิมขนมหลายชนิด เช่น ขนมจ่ามงกุฎ กลีบลำดวน ทองเอก เสน่ห์จันทร์ และอาลัวโบราณ การเดินทางท่องเที่ยวในครั้งนี้เรียกได้ว่าครบทุกอารมณ์ แม้บรรยากาศของเกาะเกร็ดจะเงียบเหงา แต่ถือเป็นโอกาสทองที่ทั้งสองคนมีเวลาทำกิจกรรมและพูดคุยกับผู้คนในชุมชนอย่างเต็มที่ หากเป็นช่วงที่สถานการณ์ปกติ คงไม่สามารถทำได้แน่ ๆ
จากประสบการณ์ท่องเที่ยวของสองสาวทำให้พวกเธอเรียนรู้ที่จะเดินทางร่วมกัน ไม่ใช่แค่คนตาดีเท่านั้นที่จะเป็นผู้นำทางหรือพาเที่ยวได้ แต่คนตาบอดก็สามารถเป็นผู้ช่วยทำให้การท่องเที่ยวนั้นได้อรรถรสมากขึ้นจากการฟังเสียงหรือดมกลิ่นต่าง ๆ ซึ่งเป็นมิติใหม่ที่ใครหลายคนอาจมองข้ามไป ลองชวนคนตาบอดออกมาท่องเที่ยวไปด้วยกันดู นั่นอาจจะทำให้คุณได้ให้โลกใบใหม่ที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อนก็ได้
ฟังรายการ เพื่อนสนิท ตอน ลัดเลาะเกาะเกร็ด สัมผัสทุ่งดอกไม้แห่งวัฒนธรรมด้วยหัวใจ
คลิก >> Website | Spotify | Apple Podcast
หรือฟังทาง Application | Thai PBS Podcast
สแกน QR Code ดาวน์โหลดได้ที่นี่
เรียบเรียง: ไอยดา สนศรี
กราฟิก: มัณฑนา ยารังษี
